JCUSER-WVMdslBw
JCUSER-WVMdslBw2025-05-18 01:35

แผนภูมิ New Highs–New Lows คืออะไร?

What Is a New Highs–New Lows Chart?

แผนภูมิ New Highs–New Lows (NH-NL) เป็นเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคที่สำคัญที่นักเทรดและนักลงทุนใช้เพื่อประเมินสุขภาพโดยรวมและแนวโน้มของตลาดการเงิน รวมถึงหุ้นและคริปโตเคอร์เรนซี แผนภูมินี้แสดงจำนวนสินทรัพย์ที่ทำจุดสูงสุดใหม่หรือจุดต่ำสุดใหม่ภายในช่วงเวลาหนึ่ง ๆ โดยให้ข้อมูลเชิงลึกว่า ตลาดกำลังอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น ขาลง หรือเป็นกลาง แผนภูมินี้ช่วยให้ผู้เข้าร่วมตลาดสามารถวัดโมเมนตัมและจุดเปลี่ยนทิศทางที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญของกลยุทธ์การเทรดแบบครบถ้วน

แผนภูมิ NH-NL ช่วยลดความซับซ้อนของข้อมูลตลาดจำนวนมากให้อยู่ในรูปแบบภาพง่ายต่อความเข้าใจ โดยการติดตามจำนวนหลักทรัพย์ที่ทำราคาสูงสุดใหม่เทียบกับหลักทรัพย์ที่ทำราคาต่ำสุดใหม่ นักเทรดสามารถตีความแนวโน้มโดยรวมของอารมณ์นักลงทุนได้อย่างรวดเร็ว ตัวอย่างเช่น การเพิ่มขึ้นของจุดสูงสุดใหม่นั้นบ่งชี้โมเมนตัมขาขึ้น ในขณะที่การเพิ่มขึ้นของจุดต่ำสุดใหม่นั้นบ่งชี้สภาวะขาลง เมื่อทั้งสองอยู่ในระดับสมดุลหรือมีแนวโน้มลดลงพร้อมกัน อาจเป็นสัญญาณว่าตลาดอยู่ในช่วงไม่แน่ใจหรือกำลังรวมตัว

How Does the NH-NL Chart Work?

หลักการสำคัญของแผนภูมิ NH-NL คือ การนับจำนวนสินทรัพย์ที่แตะระดับราคาสูงสุดหรือต่ำสุดใหม่ในช่วงเวลาที่เลือก—ไม่ว่าจะเป็นรายวัน รายสัปดาห์ หรือรายเดือน—and plotting these counts on a graph. ส่วนประกอบหลักสองส่วนคือ:

  • New Highs: จำนวนหุ้นหรือคริปโตเคอร์เรนซีที่ทะลุราคาสูงสุดก่อนหน้านี้ในช่วงเวลาที่กำหนด
  • New Lows: จำนวนสินทรัพย์ที่ตกลงต่ำกว่าราคาต่ำที่สุดก่อนหน้านี้ภายในเวลาเดียวกัน

ตัวเลขเหล่านี้จะถูกนำไปแสดงบนกราฟเป็นเส้นสองเส้น—เส้นหนึ่งแทนครอสสูงที่สุด (new highs) และอีกเส้นแทนครอสต่ำที่สุด (new lows)—เพื่อให้ผู้เทรดสามารถสังเกตความเคลื่อนไหวสัมพัทธ์ระหว่างกันตามเวลา

เมื่อวิเคราะห์ข้อมูลนี้:

  • เส้นโค้งสำหรับ new highs ที่เพิ่มขึ้นพร้อมกับ lows ที่ลดลงโดยทั่วไปจะบ่งชี้ถึงแรงซื้อขายขาขึ้น
  • ตรงกันข้าม การเพิ่มขึ้นของ lows พร้อมกับ decreasing highs มักจะหมายถึงแนวโน้มขาลง
  • ระดับสมดุลระหว่างทั้งสองแสดงถึงตลาดนิ่ง ๆ ไม่มีทิศทางชัดเจน

ภาพรวมนี้ช่วยให้สามารถประเมินสถานการณ์ได้อย่างรวบรัด โดยไม่ต้องเจาะลึกแต่ละสินทรัพย์ทีละรายการ

Why Use a New Highs–New Lows Chart?

นักลงทุนใช้แผนภูมิ NH-NL เพราะมันให้ข้อมูลเชิงลึกแบบเรียลไทม์เกี่ยวกับความแข็งแรงโดยรวมของตลาดและโอกาสในการกลับตัว แนกต่างจากกราฟราคาแบบเดิม ๆ ที่เน้นเฉพาะการเคลื่อนไหวของแต่ละหลักทรัพย์ เครื่องมือชนิดนี้เสนอข้อมูลระดับมหภาคเกี่ยวกับพฤติกรรมร่วมกันของนักลงทุนทั่วหลายสินทรัพย์ เช่น:

  • ในช่วงเวลาที่มีความผันผวนสูง เช่น ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ แผนภูมิ NH-NL สามารถเผยให้เห็นว่าผู้ลงทุนยังมั่นใจ (มี high มากกว่า) หรือกลัวความเสี่ยงมากขึ้น (มี low มากกว่า)

  • ในตลาดแนวโน้ม: การเพิ่มขึ้นต่อเนื่องของ new highs บ่งชี้โมเมนตัมเชิงบวก ขณะที่ rising lows เตือนว่ามีปัจจัยด้านลบเข้ามา

ยิ่งไปกว่านั้น การนำเครื่องมือนี้ไปใช้งานร่วมกับเครื่องมืออื่น ๆ เช่น Relative Strength Index (RSI), Moving Averages (MA), Bollinger Bands ก็ช่วยยืนยันสัญญาณจากหลายๆ ด้าน ทำให้แม่นยำมากขึ้นในการทำนายอนาคต

Recent Trends and Market Applications

ในปีล่าสุด รวมถึงปี 2023 และต้นปี 2024 แผนภูมิ NH-NL ได้รับความนิยมมากขึ้นจากผู้เทรดในการจัดการกับสิ่งแวดล้อมตลาดที่เปลี่ยนอัตราเร็ว เช่น ช่วงวิกฤติคริปโตเคอร์เร็นซีปี 2023 ซึ่งเต็มไปด้วยการปรับฐานอย่างหนัก แสดงผลผ่านยอด cryptocurrencies ที่แตะระดับต่ำสุดใหม่ เพิ่มสูงขึ้น ขณะเดียวกัน cryptocurrencies ที่ทำจุดสูงสุดก็ลดลง นี่เป็นสัญญาณเตือนเบื้องต้นสำหรับนักลงทุนที่จะลดตำแหน่งหรือควบคุมความเสี่ยงเพิ่มเติม

ตรงกันข้าม ช่วงต้นปี 2024 สถานการณ์เริ่มฟื้นตัว โดย indicator นี้สะท้อนว่า หลายสินทรัพย์สร้างจุดสูงที่สุดใหม่ได้มากกว่าจำนวนต่ำที่สุด ซึ่งเป็นสัญญาณดีสำหรับโมเมนตัมเชิงบวก ท่ามกลางเศรษฐกิจโลกโดยรวมยังดูสดใสมากขึ้น ปรับเปลี่ยนอัตราการใช้งานตามสถานการณ์จริง ทำให้อุปกรณ์นี้กลายเป็นเครื่องมือสำคัญในการติดตามวิวัฒน์สถานการณ์ต่างๆ ของตลาด

ไม่เพียงแต่หุ้นและคริปโต แต่ยังได้รับนิยมจากนักลงทุนองค์กรใหญ่ๆ ด้วย เนื่องจากนำไปใช้ร่วมกับปริมาณซื้อขาย และข้อมูลเศรษฐกิจมหภาค เพื่อปรับกลยุทธ์เข้าออกตำแหน่ง รวมทั้งบริหารจัดการพอร์ตโฟลิโอได้อย่างแม่นยำมากยิ่งขึ้น

Limitations And Risks Of Relying On This Indicator

แม้จะเต็มไปด้วยคุณค่า แต่ก็มีข้อจำกัดบางประการเมื่อใช้งานเพียงเครื่องมือเดียว:

  1. Lagging Nature: เป็นอินดิเตอร์ชนิดตามหลัง เนื่องจากอ้างอิงข้อมูลย้อนหลัง จึงสะท้อนเหตุการณ์ที่ผ่านมา ไม่ใช่คำตอบสำหรับอนาคตตรงๆ
  2. Market Noise: ความเปลี่ยนอัตราชั่วคราว อาจสร้างสัญญาณหลอก หากไม่ได้บริบท ค่าสูง/ต่ำฉับพลันอาจเป็นเพียงคลื่นลูกเล็ก ไม่ใช่ trend จริง
  3. Asset Class Variability: ตลาดแตกต่างกัน ผลกระทบต่อ accuracy ก็แตกต่างด้วย ตัวอย่างเช่น หุ้น กับ คริปโต มี volatility ต่างกันเยอะ จึงต้องปรับใช้ให้เหมาะสม
  4. Complementary Tools Needed: ควบคู่ควรรวมเข้ากับ indicator อื่น เช่น volume, trend-following tools เพื่อเพิ่มคุณภาพในการตัดสินใจ

Practical Tips For Using The Chart Effectively

เพื่อใช้ประโยชน์สูงสุด คำแนะนำเบื้องต้นคือ:

  • ใช้หลายเฟรมเวลา ทั้ง short-term สำหรับจับคลื่นทันที และ long-term สำหรับดูภาพใหญ่
  • สังเกตร่อง divergence เมื่อ one line แตกต่างจากอีก line อย่างเห็นได้ชัด เช่น new highs พุ่งแรง แต่ lows ยังค่อนข้างนิ่ง อาจเตือนว่า momentum เริ่มอ่อนแรงก่อนเกิด reversal
  • ร่วมกับ indicator อื่น เช่น RSI, moving averages เพื่อยืนยัน signal ให้มั่นใจมากกว่าเดิม

ฝึกฝนนำวิธีเหล่านี้มาใช้ในทุกกลยุทธ์ เทียบเคียงผลแล้ว จะช่วยคุณตั้งรับและหาโอกาสดีๆ ก่อนใคร

How To Incorporate Into Your Trading Strategy

วิธีนำเข้าเครื่องมือนี้เข้าสู่กลยุทธ์ คือ:

  1. สังเกตราคา ว่า assets ส่วนใหญ่สร้าง high หรือต่ำ อย่างไร แล้วดูว่า trend เป็นยังไง
  2. ใช้ divergence เป็น warning เบื้องต้น ถ้า new highs สูงผิดปกติ แล้ว lows ยังนิ่ง ก็เตรียมรับข่าวสาร reversal ได้
  3. ปรับ position size ตาม imbalance ระหว่าง high กับ low ถ้าเกิด volatility สูง ให้ระมัดระวังเรื่อง risk management มากกว่าเดิม
  4. ติดตาม pattern จากหลาย timeframe เพื่อ confirm จุดเปลี่ยนนั้น ก่อนเปิด/ปิด trade ด้วย insights เหล่านี้

Final Thoughts

The New Highs–New Lows chart ยังคงถือเป็นหนึ่งในเครื่องมือพื้นฐานแต่แข็งแรง สำหรับประเมินสุขภาพโดยรวม ของตลาด ณ เวลาใดเวลาหนึ่ง ความสามารถในการถอดข้อความซับซ้อนออกมาเป็นคำใบ้ง่าย ๆ ทำให้อุปกรณ์นี้เหมาะแก่ทุกประเภทสินค้า ตั้งแต่หุ้น ไปจนถึงเหรียญ crypto ก็ตาม เมื่อฝึกฝนนิสัยด้าน technical analysis อย่างจริงจัง พร้อมสนับสนุนด้วยเครื่องมืออื่น มันจะช่วยให้นักเทรดยืนหยัดบนพื้นฐานแห่ง sentiment จริง ไม่ใช่อาศัยโชคหรือ speculation เพียงอย่างเดียว


Note: อย่าลืมนะครับ ไม่มี indicator ใดยั่งปลอดภัย 100% การใช้หลายวิธีประกอบ กันเอง พร้อมจัดบริหารจัดการความเสี่ยง อย่างเหมาะสม จึงจะทำให้ trading ของคุณอยู่ไกลปลอดภัยและมั่นคง

15
0
0
0
Background
Avatar

JCUSER-WVMdslBw

2025-05-19 05:37

แผนภูมิ New Highs–New Lows คืออะไร?

What Is a New Highs–New Lows Chart?

แผนภูมิ New Highs–New Lows (NH-NL) เป็นเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคที่สำคัญที่นักเทรดและนักลงทุนใช้เพื่อประเมินสุขภาพโดยรวมและแนวโน้มของตลาดการเงิน รวมถึงหุ้นและคริปโตเคอร์เรนซี แผนภูมินี้แสดงจำนวนสินทรัพย์ที่ทำจุดสูงสุดใหม่หรือจุดต่ำสุดใหม่ภายในช่วงเวลาหนึ่ง ๆ โดยให้ข้อมูลเชิงลึกว่า ตลาดกำลังอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น ขาลง หรือเป็นกลาง แผนภูมินี้ช่วยให้ผู้เข้าร่วมตลาดสามารถวัดโมเมนตัมและจุดเปลี่ยนทิศทางที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญของกลยุทธ์การเทรดแบบครบถ้วน

แผนภูมิ NH-NL ช่วยลดความซับซ้อนของข้อมูลตลาดจำนวนมากให้อยู่ในรูปแบบภาพง่ายต่อความเข้าใจ โดยการติดตามจำนวนหลักทรัพย์ที่ทำราคาสูงสุดใหม่เทียบกับหลักทรัพย์ที่ทำราคาต่ำสุดใหม่ นักเทรดสามารถตีความแนวโน้มโดยรวมของอารมณ์นักลงทุนได้อย่างรวดเร็ว ตัวอย่างเช่น การเพิ่มขึ้นของจุดสูงสุดใหม่นั้นบ่งชี้โมเมนตัมขาขึ้น ในขณะที่การเพิ่มขึ้นของจุดต่ำสุดใหม่นั้นบ่งชี้สภาวะขาลง เมื่อทั้งสองอยู่ในระดับสมดุลหรือมีแนวโน้มลดลงพร้อมกัน อาจเป็นสัญญาณว่าตลาดอยู่ในช่วงไม่แน่ใจหรือกำลังรวมตัว

How Does the NH-NL Chart Work?

หลักการสำคัญของแผนภูมิ NH-NL คือ การนับจำนวนสินทรัพย์ที่แตะระดับราคาสูงสุดหรือต่ำสุดใหม่ในช่วงเวลาที่เลือก—ไม่ว่าจะเป็นรายวัน รายสัปดาห์ หรือรายเดือน—and plotting these counts on a graph. ส่วนประกอบหลักสองส่วนคือ:

  • New Highs: จำนวนหุ้นหรือคริปโตเคอร์เรนซีที่ทะลุราคาสูงสุดก่อนหน้านี้ในช่วงเวลาที่กำหนด
  • New Lows: จำนวนสินทรัพย์ที่ตกลงต่ำกว่าราคาต่ำที่สุดก่อนหน้านี้ภายในเวลาเดียวกัน

ตัวเลขเหล่านี้จะถูกนำไปแสดงบนกราฟเป็นเส้นสองเส้น—เส้นหนึ่งแทนครอสสูงที่สุด (new highs) และอีกเส้นแทนครอสต่ำที่สุด (new lows)—เพื่อให้ผู้เทรดสามารถสังเกตความเคลื่อนไหวสัมพัทธ์ระหว่างกันตามเวลา

เมื่อวิเคราะห์ข้อมูลนี้:

  • เส้นโค้งสำหรับ new highs ที่เพิ่มขึ้นพร้อมกับ lows ที่ลดลงโดยทั่วไปจะบ่งชี้ถึงแรงซื้อขายขาขึ้น
  • ตรงกันข้าม การเพิ่มขึ้นของ lows พร้อมกับ decreasing highs มักจะหมายถึงแนวโน้มขาลง
  • ระดับสมดุลระหว่างทั้งสองแสดงถึงตลาดนิ่ง ๆ ไม่มีทิศทางชัดเจน

ภาพรวมนี้ช่วยให้สามารถประเมินสถานการณ์ได้อย่างรวบรัด โดยไม่ต้องเจาะลึกแต่ละสินทรัพย์ทีละรายการ

Why Use a New Highs–New Lows Chart?

นักลงทุนใช้แผนภูมิ NH-NL เพราะมันให้ข้อมูลเชิงลึกแบบเรียลไทม์เกี่ยวกับความแข็งแรงโดยรวมของตลาดและโอกาสในการกลับตัว แนกต่างจากกราฟราคาแบบเดิม ๆ ที่เน้นเฉพาะการเคลื่อนไหวของแต่ละหลักทรัพย์ เครื่องมือชนิดนี้เสนอข้อมูลระดับมหภาคเกี่ยวกับพฤติกรรมร่วมกันของนักลงทุนทั่วหลายสินทรัพย์ เช่น:

  • ในช่วงเวลาที่มีความผันผวนสูง เช่น ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ แผนภูมิ NH-NL สามารถเผยให้เห็นว่าผู้ลงทุนยังมั่นใจ (มี high มากกว่า) หรือกลัวความเสี่ยงมากขึ้น (มี low มากกว่า)

  • ในตลาดแนวโน้ม: การเพิ่มขึ้นต่อเนื่องของ new highs บ่งชี้โมเมนตัมเชิงบวก ขณะที่ rising lows เตือนว่ามีปัจจัยด้านลบเข้ามา

ยิ่งไปกว่านั้น การนำเครื่องมือนี้ไปใช้งานร่วมกับเครื่องมืออื่น ๆ เช่น Relative Strength Index (RSI), Moving Averages (MA), Bollinger Bands ก็ช่วยยืนยันสัญญาณจากหลายๆ ด้าน ทำให้แม่นยำมากขึ้นในการทำนายอนาคต

Recent Trends and Market Applications

ในปีล่าสุด รวมถึงปี 2023 และต้นปี 2024 แผนภูมิ NH-NL ได้รับความนิยมมากขึ้นจากผู้เทรดในการจัดการกับสิ่งแวดล้อมตลาดที่เปลี่ยนอัตราเร็ว เช่น ช่วงวิกฤติคริปโตเคอร์เร็นซีปี 2023 ซึ่งเต็มไปด้วยการปรับฐานอย่างหนัก แสดงผลผ่านยอด cryptocurrencies ที่แตะระดับต่ำสุดใหม่ เพิ่มสูงขึ้น ขณะเดียวกัน cryptocurrencies ที่ทำจุดสูงสุดก็ลดลง นี่เป็นสัญญาณเตือนเบื้องต้นสำหรับนักลงทุนที่จะลดตำแหน่งหรือควบคุมความเสี่ยงเพิ่มเติม

ตรงกันข้าม ช่วงต้นปี 2024 สถานการณ์เริ่มฟื้นตัว โดย indicator นี้สะท้อนว่า หลายสินทรัพย์สร้างจุดสูงที่สุดใหม่ได้มากกว่าจำนวนต่ำที่สุด ซึ่งเป็นสัญญาณดีสำหรับโมเมนตัมเชิงบวก ท่ามกลางเศรษฐกิจโลกโดยรวมยังดูสดใสมากขึ้น ปรับเปลี่ยนอัตราการใช้งานตามสถานการณ์จริง ทำให้อุปกรณ์นี้กลายเป็นเครื่องมือสำคัญในการติดตามวิวัฒน์สถานการณ์ต่างๆ ของตลาด

ไม่เพียงแต่หุ้นและคริปโต แต่ยังได้รับนิยมจากนักลงทุนองค์กรใหญ่ๆ ด้วย เนื่องจากนำไปใช้ร่วมกับปริมาณซื้อขาย และข้อมูลเศรษฐกิจมหภาค เพื่อปรับกลยุทธ์เข้าออกตำแหน่ง รวมทั้งบริหารจัดการพอร์ตโฟลิโอได้อย่างแม่นยำมากยิ่งขึ้น

Limitations And Risks Of Relying On This Indicator

แม้จะเต็มไปด้วยคุณค่า แต่ก็มีข้อจำกัดบางประการเมื่อใช้งานเพียงเครื่องมือเดียว:

  1. Lagging Nature: เป็นอินดิเตอร์ชนิดตามหลัง เนื่องจากอ้างอิงข้อมูลย้อนหลัง จึงสะท้อนเหตุการณ์ที่ผ่านมา ไม่ใช่คำตอบสำหรับอนาคตตรงๆ
  2. Market Noise: ความเปลี่ยนอัตราชั่วคราว อาจสร้างสัญญาณหลอก หากไม่ได้บริบท ค่าสูง/ต่ำฉับพลันอาจเป็นเพียงคลื่นลูกเล็ก ไม่ใช่ trend จริง
  3. Asset Class Variability: ตลาดแตกต่างกัน ผลกระทบต่อ accuracy ก็แตกต่างด้วย ตัวอย่างเช่น หุ้น กับ คริปโต มี volatility ต่างกันเยอะ จึงต้องปรับใช้ให้เหมาะสม
  4. Complementary Tools Needed: ควบคู่ควรรวมเข้ากับ indicator อื่น เช่น volume, trend-following tools เพื่อเพิ่มคุณภาพในการตัดสินใจ

Practical Tips For Using The Chart Effectively

เพื่อใช้ประโยชน์สูงสุด คำแนะนำเบื้องต้นคือ:

  • ใช้หลายเฟรมเวลา ทั้ง short-term สำหรับจับคลื่นทันที และ long-term สำหรับดูภาพใหญ่
  • สังเกตร่อง divergence เมื่อ one line แตกต่างจากอีก line อย่างเห็นได้ชัด เช่น new highs พุ่งแรง แต่ lows ยังค่อนข้างนิ่ง อาจเตือนว่า momentum เริ่มอ่อนแรงก่อนเกิด reversal
  • ร่วมกับ indicator อื่น เช่น RSI, moving averages เพื่อยืนยัน signal ให้มั่นใจมากกว่าเดิม

ฝึกฝนนำวิธีเหล่านี้มาใช้ในทุกกลยุทธ์ เทียบเคียงผลแล้ว จะช่วยคุณตั้งรับและหาโอกาสดีๆ ก่อนใคร

How To Incorporate Into Your Trading Strategy

วิธีนำเข้าเครื่องมือนี้เข้าสู่กลยุทธ์ คือ:

  1. สังเกตราคา ว่า assets ส่วนใหญ่สร้าง high หรือต่ำ อย่างไร แล้วดูว่า trend เป็นยังไง
  2. ใช้ divergence เป็น warning เบื้องต้น ถ้า new highs สูงผิดปกติ แล้ว lows ยังนิ่ง ก็เตรียมรับข่าวสาร reversal ได้
  3. ปรับ position size ตาม imbalance ระหว่าง high กับ low ถ้าเกิด volatility สูง ให้ระมัดระวังเรื่อง risk management มากกว่าเดิม
  4. ติดตาม pattern จากหลาย timeframe เพื่อ confirm จุดเปลี่ยนนั้น ก่อนเปิด/ปิด trade ด้วย insights เหล่านี้

Final Thoughts

The New Highs–New Lows chart ยังคงถือเป็นหนึ่งในเครื่องมือพื้นฐานแต่แข็งแรง สำหรับประเมินสุขภาพโดยรวม ของตลาด ณ เวลาใดเวลาหนึ่ง ความสามารถในการถอดข้อความซับซ้อนออกมาเป็นคำใบ้ง่าย ๆ ทำให้อุปกรณ์นี้เหมาะแก่ทุกประเภทสินค้า ตั้งแต่หุ้น ไปจนถึงเหรียญ crypto ก็ตาม เมื่อฝึกฝนนิสัยด้าน technical analysis อย่างจริงจัง พร้อมสนับสนุนด้วยเครื่องมืออื่น มันจะช่วยให้นักเทรดยืนหยัดบนพื้นฐานแห่ง sentiment จริง ไม่ใช่อาศัยโชคหรือ speculation เพียงอย่างเดียว


Note: อย่าลืมนะครับ ไม่มี indicator ใดยั่งปลอดภัย 100% การใช้หลายวิธีประกอบ กันเอง พร้อมจัดบริหารจัดการความเสี่ยง อย่างเหมาะสม จึงจะทำให้ trading ของคุณอยู่ไกลปลอดภัยและมั่นคง

JuCoin Square

คำเตือน:มีเนื้อหาจากบุคคลที่สาม ไม่ใช่คำแนะนำทางการเงิน
ดูรายละเอียดในข้อกำหนดและเงื่อนไข