JCUSER-IC8sJL1q
JCUSER-IC8sJL1q2025-05-18 01:00

วิธีคำนวณ Beneish M-Score สำหรับการปรับเปลี่ยนกำไร

วิธีคำนวณ Beneish M-Score สำหรับการจัดการรายได้

ความเข้าใจวิธีตรวจจับการจัดการรายได้เป็นสิ่งสำคัญสำหรับนักลงทุน ผู้สอบบัญชี และหน่วยงานกำกับดูแลที่มุ่งรักษาความโปร่งใสทางการเงิน เครื่องมือเชิงปริมาณที่ได้รับความนิยมอย่าง Beneish M-Score ถูกออกแบบมาเพื่อวัตถุประสงค์นี้โดยเฉพาะ บทความนี้ให้คำแนะนำอย่างละเอียดเกี่ยวกับวิธีคำนวณ Beneish M-Score อธิบายส่วนประกอบ กระบวนการคำนวณ และการใช้งานในเชิงปฏิบัติ

What Is the Beneish M-Score?

Beneish M-Score เป็นโมเดลทางสถิติที่พัฒนาขึ้นโดยศาสตราจารย์ Messod Beneish ในปี ค.ศ. 1999 จุดประสงค์หลักคือเพื่อระบุบริษัทที่อาจมีพฤติกรรมจัดการรายได้ผ่านความผิดปกติด้านบัญชี ต่างจากอัตราส่วนทางการเงินแบบดั้งเดิมที่ให้ภาพรวมของผลประกอบการ เพียงชั่วคราว ตัวชี้วัดใน M-Score รวมกันเป็นตัวเลขเดียวซึ่งสามารถบ่งชี้สัญญาณเตือนในรายงานทางการเงิน

คะแนนนี้ได้รับความน่าเชื่อถือจากหน่วยงานกำกับดูแล เช่น SEC และนักลงทุน เนื่องจากนำเสนอแนวทางตามหลักฐานในการตรวจจับทุจริต ช่วยให้ผู้ใช้งานประเมินว่ารายได้ที่รายงานไว้มีแนวโน้มถูกปลอมแปลงหรือไม่ โดยอาศัยรูปแบบข้อมูลทางด้านประวัติศาสตร์

Key Components of the Model

กระบวนการคำนวณ Beneish M-Score ประกอบด้วยตัวแปรสำคัญ 8 ตัว ซึ่งได้มาจากงบแสดงฐานะและงบกำไรขาดทุนของบริษัท:

  1. Net Income / Total Assets (Income Asset Ratio)
    วัดผลกำไรสุทธิเกี่ยวข้องกับสินทรัพย์; อัตราส่วนสูงผิดปกติอาจหมายถึง การปลอมแปลงรายได้

  2. Total Assets / Total Current Assets (Asset Quality Index)
    ชี้ว่าบริษัทใช้สินทรัพย์หมุนเวียนมากเกินไปหรือปล่อยให้มูลค่าทรัพย์สินสูงเกินจริง

  3. Revenue / Total Assets (Sales Efficiency Ratio)
    ประเมินว่าตัวเลขยอดขายสูงเกินสมควรเมื่อเทียบกับสินทรัพย์หรือไม่

  4. Cash Flow from Operations / Total Assets
    วิเคราะห์ว่า กระแสเงินสดสนับสนุนผลประกอบการณ์หรือไม่; ความแตกต่างอาจเป็นเครื่องหมายของ การจัดฉากผลกำไร

  5. Total Current Assets / Total Current Liabilities
    ตรวจสอบระดับสภาพคล่อง; อัตราส่วนผิดธรรมดาอาจชี้ถึง การทำบัญชีเชิงรุก

  6. Net Income / Total Revenue
    ดูส่วนต่างของกำไรขั้นต้น; กำไรสูงผิดธรรมดาอาจเป็นเครื่องหมายของ รายรับโอเวอร์เรพอร์ต

  7. Depreciation / Total Assets
    ติดตามค่าเสื่อมราคา; ค่าเสื่อมราคาที่ต่ำกว่าความเป็นจริงสามารถเพิ่มผลกำไรเทียม

  8. Sales / Net Income
    วิเคราะห์ยอดขายเทียบกับรายได้สุทธิ; ความแตกต่างมากมาย อาจบ่งชี้ว่า รายรับถูกปลอมแปลงเกินจริง

แต่ละองค์ประกอบสะท้อนกลยุทธ์ในการบริหารผลประกอบการณ์ ที่บริษัทใช้เพื่อสร้างภาพลักษณ์ทางด้านธุรกิจที่ดีขึ้นกว่าในความเป็นจริง

Calculating Each Variable

ก่อนที่จะนำไปคำนวณคะแนนรวม คุณต้องใช้ข้อมูลเฉพาะจากงบฐานะและงบกำไรขาดทุน รวมทั้งบางครั้งต้องทำสูตรเพิ่มเติม:

  1. Days Sales in Receivables (DSR): แสดงประสิทธิภาพในการเรียกเก็บหนี้—คิดเป็น (Average Accounts Receivable / Revenue) * จำนวนวัน
  2. Gross Margin Index (GMI): เปรียบเทียบแนวโน้ม gross margin ระหว่างช่วงเวลา—ชี้ให้เห็นถึงคุณภาพของ margin
  3. Asset Liquidation Index (ALTI): วัดแนวโน้มในการขายทรัพย์สิน ซึ่งอาจส่งสัญญาณภาวะเครียด หรือ พฤติกรรมหลอกลวง
  4. Sales Growth Index (SGI): ติดตามระดับยอดขายเปรียบเทียบช่วงเวลา—เติบโตเร็วบางครั้งซ่อนเร้นข้อผิดพลาด
  5. Depreciation Index (DEPI): เปรียบเทียบแนวโน้มค่าเสื่อมราคา—ค่าเสื่อมราคาที่ต่ำกว่า คาดว่าจะมีเป้าหมายเพิ่มผลกำไร
  6. McGee Index (MG): วิเคราะห์เสถียรภาพของรายได้นับตั้งแต่ยอดขาย—สัญญาณของ การปรับแต่ง earnings หรือ พฤติกรรมหลอกลวง
  7. Asset Turnover Ratio Index (ATRI): ประเมินว่า สินทรัพย์สร้างยอดขายอย่างมีประสิทธิภาพเพียงใดในช่วงเวลา

ตัวแปรเหล่านี้จะถูกคำนวณด้วยสูตรเฉพาะสำหรับแต่ละตัว แล้วนำเข้าสู่สมาการสุดท้ายต่อไป

The Formula for Computing the Overall M-Score

เมื่อคุณคำนวณค่าของแต่ละตัวแล้ว ก็จะนำมาใช้สูตรผสมดังนี้:

[ M = -4.84 + 0.920 \times DSR + 0.528 \times GMI + 0.404 \times ALTI + 0.892 \times SGI + 0..115 \times DEPI + 0..172 \times MG + 4..679 \times ATRI ]

สูตรนี้จะให้น้ำหนักแก่แต่ละองค์ประกอบ แล้วรวมกันเป็นคะแนนเดียว ซึ่งค่าที่สูงขึ้น หมายถึงโอกาสที่จะมีการจัดฉากรายได้มากขึ้นตามไปด้วย

Interpreting Your Results

ค่าที่ได้นั้น ต้องตีความภายในบริบท:

  • คะแนนเหนือ -1 แสดงถึงโอกาสสูงขึ้นว่ามี การปลอมแปลงรายได้เกิดขึ้น
  • คะแนนต่ำกว่า -2 โดยทั่วไปถือว่ามี ความเสี่ยงต่ำ

ทั้งนี้ เกณฑ์เหล่านี้สามารถปรับเปลี่ยนตามมาตรฐานในแต่ละกลุ่มธุรกิจและสถานการณ์ เพื่อเพิ่มแม่นยำ ควบคู่ไปกับข้อมูลเชิงคุณภาพก็ช่วยเพิ่มความแม่นยำอีกด้วย

Practical Applications & Limitations

นักเศรษฐศาสตร์และนักลงทุน ใช้โมเดลดังกล่าวร่วมในการตรวจสอบสุขภาพบริษัทก่อนตัดสินใจลงทุน หรือตรวจสอบเอกสารบริษัทระหว่างกระบวนการแข่งขัน:

  • หน่วยงาน regulator ใช้เพื่อตรวจจับเบื้องต้นกรณีฉ้อโกง
  • นักลงทุน นำไปใช้ร่วมกับกระทำอื่น ๆ ใน risk assessment
  • คณะกรรมบริหารกิจกรรมภายในองค์กร เฝ้าระบบควบคุมภายใน

แม้ว่าจะมีจุดแข็ง แต่ก็อย่าพึ่งพาเพียงหนึ่งเครื่องมือ เพราะ false positives ก็เกิดขึ้นได้ เช่น สถานการณ์เติบโตเร็ว หรือ ปรับโครงสร้าง ที่ทำให้อัตราส่วนพลิกผันชั่วคราว

Final Tips for Using the Beneish Model Effectively

เพื่อใช้งานอย่างเต็มศักยภาพ:– รวบรวมข้อมูลจากแหล่งข้อมูลน่าเชื่อถืออย่างถูกต้องแม่นยำ – ปรับ threshold ให้เหมาะสมตามประเภทธุรกิจและสถานการณ์เฉพาะหน้า – ใช้ร่วมเครื่องมือ forensic อื่น ๆ เช่น วิเคราะห์ ratio และกระบวนตรวจสอบบัญชี – ติดตามข่าวสาร งานวิจัยใหม่ ๆ เพื่อปรับปรุงโมเดลให้แม่นยำมากขึ้น

โดยเข้าใจทั้งกลไกแต่ละส่วนและวิธีผสมผสานกันในกรอบนี้ ผู้ใช้งานจะได้รับข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับความซื่อสัตย์สุจริต ขององค์กร พร้อมรักษามาตรฐานด้านวิทยาศาสตร์ในการตรวจสอบบัญชีและเศษฐศาสตร์องค์กร

20
0
0
0
Background
Avatar

JCUSER-IC8sJL1q

2025-05-19 16:35

วิธีคำนวณ Beneish M-Score สำหรับการปรับเปลี่ยนกำไร

วิธีคำนวณ Beneish M-Score สำหรับการจัดการรายได้

ความเข้าใจวิธีตรวจจับการจัดการรายได้เป็นสิ่งสำคัญสำหรับนักลงทุน ผู้สอบบัญชี และหน่วยงานกำกับดูแลที่มุ่งรักษาความโปร่งใสทางการเงิน เครื่องมือเชิงปริมาณที่ได้รับความนิยมอย่าง Beneish M-Score ถูกออกแบบมาเพื่อวัตถุประสงค์นี้โดยเฉพาะ บทความนี้ให้คำแนะนำอย่างละเอียดเกี่ยวกับวิธีคำนวณ Beneish M-Score อธิบายส่วนประกอบ กระบวนการคำนวณ และการใช้งานในเชิงปฏิบัติ

What Is the Beneish M-Score?

Beneish M-Score เป็นโมเดลทางสถิติที่พัฒนาขึ้นโดยศาสตราจารย์ Messod Beneish ในปี ค.ศ. 1999 จุดประสงค์หลักคือเพื่อระบุบริษัทที่อาจมีพฤติกรรมจัดการรายได้ผ่านความผิดปกติด้านบัญชี ต่างจากอัตราส่วนทางการเงินแบบดั้งเดิมที่ให้ภาพรวมของผลประกอบการ เพียงชั่วคราว ตัวชี้วัดใน M-Score รวมกันเป็นตัวเลขเดียวซึ่งสามารถบ่งชี้สัญญาณเตือนในรายงานทางการเงิน

คะแนนนี้ได้รับความน่าเชื่อถือจากหน่วยงานกำกับดูแล เช่น SEC และนักลงทุน เนื่องจากนำเสนอแนวทางตามหลักฐานในการตรวจจับทุจริต ช่วยให้ผู้ใช้งานประเมินว่ารายได้ที่รายงานไว้มีแนวโน้มถูกปลอมแปลงหรือไม่ โดยอาศัยรูปแบบข้อมูลทางด้านประวัติศาสตร์

Key Components of the Model

กระบวนการคำนวณ Beneish M-Score ประกอบด้วยตัวแปรสำคัญ 8 ตัว ซึ่งได้มาจากงบแสดงฐานะและงบกำไรขาดทุนของบริษัท:

  1. Net Income / Total Assets (Income Asset Ratio)
    วัดผลกำไรสุทธิเกี่ยวข้องกับสินทรัพย์; อัตราส่วนสูงผิดปกติอาจหมายถึง การปลอมแปลงรายได้

  2. Total Assets / Total Current Assets (Asset Quality Index)
    ชี้ว่าบริษัทใช้สินทรัพย์หมุนเวียนมากเกินไปหรือปล่อยให้มูลค่าทรัพย์สินสูงเกินจริง

  3. Revenue / Total Assets (Sales Efficiency Ratio)
    ประเมินว่าตัวเลขยอดขายสูงเกินสมควรเมื่อเทียบกับสินทรัพย์หรือไม่

  4. Cash Flow from Operations / Total Assets
    วิเคราะห์ว่า กระแสเงินสดสนับสนุนผลประกอบการณ์หรือไม่; ความแตกต่างอาจเป็นเครื่องหมายของ การจัดฉากผลกำไร

  5. Total Current Assets / Total Current Liabilities
    ตรวจสอบระดับสภาพคล่อง; อัตราส่วนผิดธรรมดาอาจชี้ถึง การทำบัญชีเชิงรุก

  6. Net Income / Total Revenue
    ดูส่วนต่างของกำไรขั้นต้น; กำไรสูงผิดธรรมดาอาจเป็นเครื่องหมายของ รายรับโอเวอร์เรพอร์ต

  7. Depreciation / Total Assets
    ติดตามค่าเสื่อมราคา; ค่าเสื่อมราคาที่ต่ำกว่าความเป็นจริงสามารถเพิ่มผลกำไรเทียม

  8. Sales / Net Income
    วิเคราะห์ยอดขายเทียบกับรายได้สุทธิ; ความแตกต่างมากมาย อาจบ่งชี้ว่า รายรับถูกปลอมแปลงเกินจริง

แต่ละองค์ประกอบสะท้อนกลยุทธ์ในการบริหารผลประกอบการณ์ ที่บริษัทใช้เพื่อสร้างภาพลักษณ์ทางด้านธุรกิจที่ดีขึ้นกว่าในความเป็นจริง

Calculating Each Variable

ก่อนที่จะนำไปคำนวณคะแนนรวม คุณต้องใช้ข้อมูลเฉพาะจากงบฐานะและงบกำไรขาดทุน รวมทั้งบางครั้งต้องทำสูตรเพิ่มเติม:

  1. Days Sales in Receivables (DSR): แสดงประสิทธิภาพในการเรียกเก็บหนี้—คิดเป็น (Average Accounts Receivable / Revenue) * จำนวนวัน
  2. Gross Margin Index (GMI): เปรียบเทียบแนวโน้ม gross margin ระหว่างช่วงเวลา—ชี้ให้เห็นถึงคุณภาพของ margin
  3. Asset Liquidation Index (ALTI): วัดแนวโน้มในการขายทรัพย์สิน ซึ่งอาจส่งสัญญาณภาวะเครียด หรือ พฤติกรรมหลอกลวง
  4. Sales Growth Index (SGI): ติดตามระดับยอดขายเปรียบเทียบช่วงเวลา—เติบโตเร็วบางครั้งซ่อนเร้นข้อผิดพลาด
  5. Depreciation Index (DEPI): เปรียบเทียบแนวโน้มค่าเสื่อมราคา—ค่าเสื่อมราคาที่ต่ำกว่า คาดว่าจะมีเป้าหมายเพิ่มผลกำไร
  6. McGee Index (MG): วิเคราะห์เสถียรภาพของรายได้นับตั้งแต่ยอดขาย—สัญญาณของ การปรับแต่ง earnings หรือ พฤติกรรมหลอกลวง
  7. Asset Turnover Ratio Index (ATRI): ประเมินว่า สินทรัพย์สร้างยอดขายอย่างมีประสิทธิภาพเพียงใดในช่วงเวลา

ตัวแปรเหล่านี้จะถูกคำนวณด้วยสูตรเฉพาะสำหรับแต่ละตัว แล้วนำเข้าสู่สมาการสุดท้ายต่อไป

The Formula for Computing the Overall M-Score

เมื่อคุณคำนวณค่าของแต่ละตัวแล้ว ก็จะนำมาใช้สูตรผสมดังนี้:

[ M = -4.84 + 0.920 \times DSR + 0.528 \times GMI + 0.404 \times ALTI + 0.892 \times SGI + 0..115 \times DEPI + 0..172 \times MG + 4..679 \times ATRI ]

สูตรนี้จะให้น้ำหนักแก่แต่ละองค์ประกอบ แล้วรวมกันเป็นคะแนนเดียว ซึ่งค่าที่สูงขึ้น หมายถึงโอกาสที่จะมีการจัดฉากรายได้มากขึ้นตามไปด้วย

Interpreting Your Results

ค่าที่ได้นั้น ต้องตีความภายในบริบท:

  • คะแนนเหนือ -1 แสดงถึงโอกาสสูงขึ้นว่ามี การปลอมแปลงรายได้เกิดขึ้น
  • คะแนนต่ำกว่า -2 โดยทั่วไปถือว่ามี ความเสี่ยงต่ำ

ทั้งนี้ เกณฑ์เหล่านี้สามารถปรับเปลี่ยนตามมาตรฐานในแต่ละกลุ่มธุรกิจและสถานการณ์ เพื่อเพิ่มแม่นยำ ควบคู่ไปกับข้อมูลเชิงคุณภาพก็ช่วยเพิ่มความแม่นยำอีกด้วย

Practical Applications & Limitations

นักเศรษฐศาสตร์และนักลงทุน ใช้โมเดลดังกล่าวร่วมในการตรวจสอบสุขภาพบริษัทก่อนตัดสินใจลงทุน หรือตรวจสอบเอกสารบริษัทระหว่างกระบวนการแข่งขัน:

  • หน่วยงาน regulator ใช้เพื่อตรวจจับเบื้องต้นกรณีฉ้อโกง
  • นักลงทุน นำไปใช้ร่วมกับกระทำอื่น ๆ ใน risk assessment
  • คณะกรรมบริหารกิจกรรมภายในองค์กร เฝ้าระบบควบคุมภายใน

แม้ว่าจะมีจุดแข็ง แต่ก็อย่าพึ่งพาเพียงหนึ่งเครื่องมือ เพราะ false positives ก็เกิดขึ้นได้ เช่น สถานการณ์เติบโตเร็ว หรือ ปรับโครงสร้าง ที่ทำให้อัตราส่วนพลิกผันชั่วคราว

Final Tips for Using the Beneish Model Effectively

เพื่อใช้งานอย่างเต็มศักยภาพ:– รวบรวมข้อมูลจากแหล่งข้อมูลน่าเชื่อถืออย่างถูกต้องแม่นยำ – ปรับ threshold ให้เหมาะสมตามประเภทธุรกิจและสถานการณ์เฉพาะหน้า – ใช้ร่วมเครื่องมือ forensic อื่น ๆ เช่น วิเคราะห์ ratio และกระบวนตรวจสอบบัญชี – ติดตามข่าวสาร งานวิจัยใหม่ ๆ เพื่อปรับปรุงโมเดลให้แม่นยำมากขึ้น

โดยเข้าใจทั้งกลไกแต่ละส่วนและวิธีผสมผสานกันในกรอบนี้ ผู้ใช้งานจะได้รับข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับความซื่อสัตย์สุจริต ขององค์กร พร้อมรักษามาตรฐานด้านวิทยาศาสตร์ในการตรวจสอบบัญชีและเศษฐศาสตร์องค์กร

JuCoin Square

คำเตือน:มีเนื้อหาจากบุคคลที่สาม ไม่ใช่คำแนะนำทางการเงิน
ดูรายละเอียดในข้อกำหนดและเงื่อนไข