TradingView ได้สร้างชื่อเสียงในฐานะแพลตฟอร์มชั้นนำสำหรับเทรดเดอร์และนักลงทุนทั่วโลก โดยนำเสนอชุดเครื่องมือที่ครอบคลุมสำหรับวิเคราะห์ทางเทคนิค การวาดกราฟ และการเทรดแบบสังคม เพื่อรองรับความต้องการที่หลากหลายของผู้ใช้งาน ตั้งแต่เทรดเดอร์ทั่วไปจนถึงนักวิเคราะห์มืออาชีพ TradingView จึงมีระดับการสมัครสมาชิกหลายระดับ การเข้าใจแต่ละระดับจึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการเพิ่มประสิทธิภาพในการเทรด พร้อมกับจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิผล
TradingView ดำเนินธุรกิจบนโมเดลแบบฟรี-พรีเมียม (freemium) ซึ่งให้บริการเข้าถึงฟีเจอร์พื้นฐานฟรี พร้อมกับแผนแบบเสียเงินหลายระดับที่จะปลดล็อกความสามารถขั้นสูง แนวทางนี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเลือกแผนตามระดับกิจกรรมในการเทรด ความต้องการด้านเทคนิค และงบประมาณได้อย่างเหมาะสม พัฒนาการของแพลตฟอร์มในช่วงหลายปีที่ผ่านมาแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการปรับปรุงประสบการณ์ผู้ใช้ผ่านอัปเดตคุณสมบัติและอินทิเกรชันใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง
แผนฟรีเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีสำหรับผู้เริ่มต้นหรือเทรดเดอร์ทั่วไปที่อยากลองใช้ TradingView โดยไม่ต้องลงทุนใดๆ มันให้เครื่องมือกราฟพื้นฐาน เช่น ข้อมูลเรียลไทม์เบื้องต้น และตัวชี้วัดจำกัดต่อกราฟโดยปกติประมาณ 3 ตัวพร้อมกัน แม้ว่าจะไม่มีฟีเจอร์ขั้นสูงเช่น การแจ้งเตือนหลายรายการหรือ Backtesting แต่ก็เพียงพอสำหรับคนที่กำลังทดลองตลาด หรือเรียนรู้เกี่ยวกับการวิเคราะห์ตลาด
แผน Pro มุ่งเป้าไปยังนักเทรดยุคใหม่ ที่ต้องการเครื่องมือขั้นสูงมากขึ้นจากเวอร์ชันฟรี ผู้ใช้งานจะได้รับสิทธิ์เข้าถึงกราฟแบบพัฒนายิ่งขึ้น พร้อมตัวชี้วัดเพิ่มเติม (สูงสุด 10 ตัว) มุมมองเวลาได้หลายช่วงพร้อมกัน และจำนวนแจ้งเตือนเพิ่มขึ้น ฟีเจอร์ต่างๆ เหล่านี้สนับสนุนงานวิเคราะห์เชิงลึกซึ่งจำเป็นต่อกลยุทธ์ Day Trade หรือ Swing Trade แผน Pro จึงเป็นสมดุลระหว่างราคาที่จับต้องได้และความสามารถ ทำให้ได้รับความนิยมในกลุ่มนักลงทุนสายจริงจังบางส่วนด้วยเช่นกัน
ต่อยอดจากรุ่นก่อนหน้า แผน Pro+ เพิ่มคุณสมบัติ เช่น การแจ้งเตือนไม่จำกัด ตัวเลือก Backtesting ขั้นสูง และจำนวนตัวชี้วัดมากกว่า 25 ตัว นักเทรดยึด automation หลีกเลี่ยงไม่ได้ หรือกลยุทธ์ซับซ้อน ต้องการทบทวนแนวคิดอย่างละเอียด จะพบว่าระดับนี้ตอบโจทย์ได้ดี ความเน้นด้านข้อมูลเชิงลึกทำให้เหมาะกับนักลงทุนประสบการณ์ ที่ไม่อยากเข้าสู่โหมดโปรเต็มตัวแต่ยังคงใช้อุปกรณ์ครบครันเพื่อเสริมสร้างกลยุทธ์ต่างๆ ของตนเอง
Premium เป็นสุดยอดแพ็คเกจ สำหรับนักลงทุนมืออาชีพ หรือนักองค์กร ที่ต้องการความยืดหยุ่นเต็มรูปแบบ รวมทั้งเข้าถึงข้อมูลเฉพาะ กลุ่มนี้จะได้รับทุกฟีเจอร์ตั้งแต่ต่ำสุด ไปจนถึงข้อดีเพิ่มเติม เช่น อัตราการรีเฟรชข้อมูลเร็วขึ้น (ทุก ๆ วินาที), บริการสนับสนุนลูกค้าลำดับแรก, เข้าถึงคุณสมบัติใหม่ก่อนใคร รวมถึงข้อมูลเชิงลึกจากกลุ่มผู้เชี่ยวชาญใน Community ของ TradingView โครงสร้างนี้เน้นเรื่อง Content ระดับพรีเมียมควบคู่ไปกับเครื่องมือวิเคราะห์ทรงพลัง
ในช่วงหลัง ๆ นี้ TradingView ได้ปรับปรุงแพล็ตฟอร์มด้วยระบบ Backtesting ขั้นสูงมากขึ้น ช่วยให้นักลงทุนประเมินกลยุทธ์ได้ง่ายขึ้น รวมทั้งขยายคลัง Indicator จาก Community นอกจากนี้ ยังมี:
ทั้งหมดเหล่านี้ช่วยเพิ่มคุณค่าโดยรวม แต่ก็ส่งผลต่อวิธีคิดของกลุ่มเป้าหมายต่าง ๆ ในเรื่องราคาค่าสมัครด้วย
แม้จะประสบความสำเร็จก็ตาม มีปัจจัยบางอย่างที่ทำให้เกิดคำถาม เช่น:
แก้ไขปัญหาเหล่านี้ ต้องเดินหน้าพัฒนา Product อย่างต่อเนื่อง ปรับแต่ง UX/UI ให้ดี ใช้มาตรวัดมาตฐานด้านกฎหมาย ควบคู่ไปกับรักษาความไว้วางใจ ทั้งในสายงานและลูกค้าใหม่ที่จะมาเติมเต็มช่องทางรายได้อีกครั้งหนึ่ง
เลือกแค่ไหนก็แล้วแต่เป้าหมายส่วนบุคคล:
เข้าใจรายละเอียดแต่ละ tier จะช่วยให้คุณบริหารทรัพยากรรวมทั้งเวลาของคุณ ได้ตรงตามรูปแบบ trading สไตล์นั้น เป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญสู่ความสำเร็จอย่างมั่นคงในตลาดแห่งอนาคต
โดยภาพรวมแล้ว หากเข้าใจว่า TradingView จัดโครงสร้างบริการตั้งแต่เวลาก่อนใช้ฟรี ไปจนถึงชุดโปรฯ พิเศษ คุณจะสามารถเลือกระบบที่จะตอบโจทย์เป้าหมาย ลงทุนอย่างฉลาด ใช้ทรัพยากรร่วม กับทีมงานและ community ชั้นนำเพื่อเสริมศักยภาพในการ วิเคราะห์ตลาดอย่างยอดเยี่ยม
Lo
2025-05-26 23:45
TradingView มีระดับการสมัครสมาชิกอะไรบ้าง?
TradingView ได้สร้างชื่อเสียงในฐานะแพลตฟอร์มชั้นนำสำหรับเทรดเดอร์และนักลงทุนทั่วโลก โดยนำเสนอชุดเครื่องมือที่ครอบคลุมสำหรับวิเคราะห์ทางเทคนิค การวาดกราฟ และการเทรดแบบสังคม เพื่อรองรับความต้องการที่หลากหลายของผู้ใช้งาน ตั้งแต่เทรดเดอร์ทั่วไปจนถึงนักวิเคราะห์มืออาชีพ TradingView จึงมีระดับการสมัครสมาชิกหลายระดับ การเข้าใจแต่ละระดับจึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการเพิ่มประสิทธิภาพในการเทรด พร้อมกับจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิผล
TradingView ดำเนินธุรกิจบนโมเดลแบบฟรี-พรีเมียม (freemium) ซึ่งให้บริการเข้าถึงฟีเจอร์พื้นฐานฟรี พร้อมกับแผนแบบเสียเงินหลายระดับที่จะปลดล็อกความสามารถขั้นสูง แนวทางนี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเลือกแผนตามระดับกิจกรรมในการเทรด ความต้องการด้านเทคนิค และงบประมาณได้อย่างเหมาะสม พัฒนาการของแพลตฟอร์มในช่วงหลายปีที่ผ่านมาแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการปรับปรุงประสบการณ์ผู้ใช้ผ่านอัปเดตคุณสมบัติและอินทิเกรชันใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง
แผนฟรีเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีสำหรับผู้เริ่มต้นหรือเทรดเดอร์ทั่วไปที่อยากลองใช้ TradingView โดยไม่ต้องลงทุนใดๆ มันให้เครื่องมือกราฟพื้นฐาน เช่น ข้อมูลเรียลไทม์เบื้องต้น และตัวชี้วัดจำกัดต่อกราฟโดยปกติประมาณ 3 ตัวพร้อมกัน แม้ว่าจะไม่มีฟีเจอร์ขั้นสูงเช่น การแจ้งเตือนหลายรายการหรือ Backtesting แต่ก็เพียงพอสำหรับคนที่กำลังทดลองตลาด หรือเรียนรู้เกี่ยวกับการวิเคราะห์ตลาด
แผน Pro มุ่งเป้าไปยังนักเทรดยุคใหม่ ที่ต้องการเครื่องมือขั้นสูงมากขึ้นจากเวอร์ชันฟรี ผู้ใช้งานจะได้รับสิทธิ์เข้าถึงกราฟแบบพัฒนายิ่งขึ้น พร้อมตัวชี้วัดเพิ่มเติม (สูงสุด 10 ตัว) มุมมองเวลาได้หลายช่วงพร้อมกัน และจำนวนแจ้งเตือนเพิ่มขึ้น ฟีเจอร์ต่างๆ เหล่านี้สนับสนุนงานวิเคราะห์เชิงลึกซึ่งจำเป็นต่อกลยุทธ์ Day Trade หรือ Swing Trade แผน Pro จึงเป็นสมดุลระหว่างราคาที่จับต้องได้และความสามารถ ทำให้ได้รับความนิยมในกลุ่มนักลงทุนสายจริงจังบางส่วนด้วยเช่นกัน
ต่อยอดจากรุ่นก่อนหน้า แผน Pro+ เพิ่มคุณสมบัติ เช่น การแจ้งเตือนไม่จำกัด ตัวเลือก Backtesting ขั้นสูง และจำนวนตัวชี้วัดมากกว่า 25 ตัว นักเทรดยึด automation หลีกเลี่ยงไม่ได้ หรือกลยุทธ์ซับซ้อน ต้องการทบทวนแนวคิดอย่างละเอียด จะพบว่าระดับนี้ตอบโจทย์ได้ดี ความเน้นด้านข้อมูลเชิงลึกทำให้เหมาะกับนักลงทุนประสบการณ์ ที่ไม่อยากเข้าสู่โหมดโปรเต็มตัวแต่ยังคงใช้อุปกรณ์ครบครันเพื่อเสริมสร้างกลยุทธ์ต่างๆ ของตนเอง
Premium เป็นสุดยอดแพ็คเกจ สำหรับนักลงทุนมืออาชีพ หรือนักองค์กร ที่ต้องการความยืดหยุ่นเต็มรูปแบบ รวมทั้งเข้าถึงข้อมูลเฉพาะ กลุ่มนี้จะได้รับทุกฟีเจอร์ตั้งแต่ต่ำสุด ไปจนถึงข้อดีเพิ่มเติม เช่น อัตราการรีเฟรชข้อมูลเร็วขึ้น (ทุก ๆ วินาที), บริการสนับสนุนลูกค้าลำดับแรก, เข้าถึงคุณสมบัติใหม่ก่อนใคร รวมถึงข้อมูลเชิงลึกจากกลุ่มผู้เชี่ยวชาญใน Community ของ TradingView โครงสร้างนี้เน้นเรื่อง Content ระดับพรีเมียมควบคู่ไปกับเครื่องมือวิเคราะห์ทรงพลัง
ในช่วงหลัง ๆ นี้ TradingView ได้ปรับปรุงแพล็ตฟอร์มด้วยระบบ Backtesting ขั้นสูงมากขึ้น ช่วยให้นักลงทุนประเมินกลยุทธ์ได้ง่ายขึ้น รวมทั้งขยายคลัง Indicator จาก Community นอกจากนี้ ยังมี:
ทั้งหมดเหล่านี้ช่วยเพิ่มคุณค่าโดยรวม แต่ก็ส่งผลต่อวิธีคิดของกลุ่มเป้าหมายต่าง ๆ ในเรื่องราคาค่าสมัครด้วย
แม้จะประสบความสำเร็จก็ตาม มีปัจจัยบางอย่างที่ทำให้เกิดคำถาม เช่น:
แก้ไขปัญหาเหล่านี้ ต้องเดินหน้าพัฒนา Product อย่างต่อเนื่อง ปรับแต่ง UX/UI ให้ดี ใช้มาตรวัดมาตฐานด้านกฎหมาย ควบคู่ไปกับรักษาความไว้วางใจ ทั้งในสายงานและลูกค้าใหม่ที่จะมาเติมเต็มช่องทางรายได้อีกครั้งหนึ่ง
เลือกแค่ไหนก็แล้วแต่เป้าหมายส่วนบุคคล:
เข้าใจรายละเอียดแต่ละ tier จะช่วยให้คุณบริหารทรัพยากรรวมทั้งเวลาของคุณ ได้ตรงตามรูปแบบ trading สไตล์นั้น เป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญสู่ความสำเร็จอย่างมั่นคงในตลาดแห่งอนาคต
โดยภาพรวมแล้ว หากเข้าใจว่า TradingView จัดโครงสร้างบริการตั้งแต่เวลาก่อนใช้ฟรี ไปจนถึงชุดโปรฯ พิเศษ คุณจะสามารถเลือกระบบที่จะตอบโจทย์เป้าหมาย ลงทุนอย่างฉลาด ใช้ทรัพยากรร่วม กับทีมงานและ community ชั้นนำเพื่อเสริมศักยภาพในการ วิเคราะห์ตลาดอย่างยอดเยี่ยม
คำเตือน:มีเนื้อหาจากบุคคลที่สาม ไม่ใช่คำแนะนำทางการเงิน
ดูรายละเอียดในข้อกำหนดและเงื่อนไข